วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ไต้ฝุ่นแองเจล่า

ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นแองเจล่า                                     
หลังจากที่ผมได้พบเจอกับพายุเกย์ไปแล้ว ผมก็หันมาสนใจศึกษาเรื่องภูมิอากาศเล็กๆ น้อยๆเผื่อเจออีกวันข้างหน้าเวลามีปัญหาจะได้รู้และเข้าใจเรื่องราว..และก็จริงๆ.. ต่อมาก็ได้เจอกับพายุนามว่า Angela ไต้ฝุ่นแองเจลล่า คือพายุที่คนไทยแทบไม่รู้จัก ทั้งที่ผู้รับผิดชอบหลายท่านในขณะนั้น ต่างก็รู้สึกกังวลกับ เธอยิ่งนัก แม้กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ท่าน ยังทรงติดตามดูและเช็คข่าวสารและคาดการณ์ดูกำลังพายุอยู่ตลอดดังที่มีบันทึกตอนหนึ่งว่า



ศาสตราจารย์ ดร.ศรีศักดิ์  จามรมาน  กล่าวว่า  เมื่อเดือนพฤศจิกายน  พ.ศ. 2538 ขณะที่ไต้ฝุ่นแองเจล่า (Angela)  ทําความเสียหายให้กับประเทศ ฟิลิปปินส์  และคาดว่าจะเข้าสู่ประเทศไทย ใน เวลาต่อมาทางกรมอุตุนิยมวิทยา  คุณ สมิทธฯ (นายสมิทธิ ธรรมสโรช  อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาในขณะนั้น) ก็บอกว่า ‘แอนเจลล่า’ นี่เป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น  น่ากลัวคร่าชีวิตในฟิลิปปินส์  ดูเหมือนเป็นพันกว่า  ผ่านมาแล้วมาในทะเลจีนใต้…ได้รับพยากรณ์อากาศนั้น ตอนนั้นทางกรมอุตุฯได้แจ้งเตือนประชาชนชาวไทย
ให้เตรียม ระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น จากพายุ

และในขณะนั้นในหลวงทรงติดตามความเคลื่อนไหวของ Angelaโดยพระองค์ท่าน ได้ทรงอธิบายเรื่องพายุ โดยใช้แผ่ภาพ จาก ดาวเทียม GMS5 พระองค์ทรงชี้ให้ดูว่า Angela จะอ่อนกำลังลงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ได้ทรงติดตามควาเคลื่อนไหวของไต้ฝุ่นนี้ และได้พระราชทานความเห็นว่า ไม่ควรตระหนกแต่อย่างใดเนื่องจากไต้ฝุ่นได้อ่อนกําลังลงเมื่อเคลื่อนเข้าสู่ ประเทศเวียดนาม และได้แปรสภาพเป็นความกดอากาศขนาดย่อมเท่านั้น


จึงเป็นข่าวอันน่ายินดีสําหรับชาวไทยนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากพระอัจฉริยภาพ  และความก้าวล้ำในการทรงใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ  และทางกรอุตุนิยมวิทยาก็ได้พัฒนาตามเบื้องพระยุคลบาทต่อไป

จากรายงานในเว็บไซต์กองทัพเรือ อเมริกัน
(www.npmoc.navy.mil/jtwc/atcr/1995atcr/pdf/wnp/29w.pdf)  ทราบว่าแองเจล่าเป็นใต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดสําหรับฟิลิปปินส์ตั้งแต่ พ.ศ.2513  ถึง พ.ศ.2538   มีผู้เสียชีวิตกว่า 600 คน  และสูญหายกว่า 100 คน  บ้านเรือนถูกทําลายกว่า 96,000  หลั งคา เสียหายสําหรับถนนและสะพานรวมทั้งสิ้นประมาณ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท  แล้วยังมีค่าเสียหายด้านการเกษตรอีกกว่า 18  ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 640 ล้านบาท  ส่วนประเทศไทยไม่ได้รับผลความเสียหายจากแองเจล่าเลย                                                                      
เช็คจากข่าวสารที่ข่าวต่างประเทศรายงานเรื่องในหลวงตรวจสอบสภาพอากาศ  .. The public television report showed His Majesty's concern for the safety of the people and natural disaster such as flood and typhoons. In this particular case, His Majesty closely monitored the typhoon Angelawhich passed over the Philippines on 1st November 1995,and caused severe damage to the country. The cyclone was moving towards Vietnam and was expected to affect Thailand severely. However, only three days after it caused damage to the Philippines, it appeared to be "thinner" and became just a small depression quickly after it reached Vietnam on 6th November.          

จะเห็นว่าพายุได้มาถึงฝั่งเวียดนามวันที่  6 พฤศจิกายน 2538 จริงๆและก็ได้ลดกำลังลงเป็นพายุ ดีเปรสชั่น และความอดอากาศต่ำ  เคลื่อนลงสู่อ่าวไทยบริเวณปลายแหลมญวนพอดี  แต่ถ้ามีใครเคยเก็บข้อมูลไว้ในขณะนั้นเอาไว้ จะเห็นก่อนหน้านี้ในเวลาล่ายเลี่ยกัน ได้มีพายุ เข้ามาก่อน Angela ลูกนึงแล้ว ก่อนจะเลยเข้าทางประเทสจีน  ตามมาด้วย Angela  และตามหลังมาอีกลูกนึงไม่รู้ว่าชื่ออะไรแล้ว ไม่ได้จดเอาไว้...คือมีพายุเกิด 3 ลูกต่อเนื่องกัน     
แต่เรืองของเรื่องคือ ผมต้องลงไปทำงานที่สถานีฯดาวเทียมเอราวัณในอ่าวไทย  วันที่ 7 พฤศจิกายน 2538 ซึ่งผมคิดว่าพายุ อาจชุบตัวขึ้นมาใหม่เพราะว่า อากาศในอ่าวไทย ไม่เหมือนเดิมคืออุ่นขึ้นมาก อาจเป็น เพราะในอ่าวไทยมีฐานเจาะก๊าซอยู่เต็มไปหมดคล้ายๆอ่าวเม็กซิโก  ซึ่งในทุกๆฐานล้วนมีแฟร์ คือไฟที่ปลายท่อขนาดใหญ่ที่จุดไว้ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลทางเทคนิ


จากการสังเกตุเมื่อมาถึง ฐานผลิตฯเริ่มเห็นลางบอกเหตุว่าจะเกิดพายุคือ ( 1) เริ่มเจอคนหน้าเดิมเจ้าเก่าที่เคยเจอพายุเกย์  (2)น้ำทะเลดูเหมือนจะพัดหลายทิศ คือดูคลื่นบนน้ำ แล้วก็ดูการไหลของน้ำชั้นล่างโดยดูที่สายเบ็ดตกปลาของคนที่อยู่บนฐาน(ตกกันตลอด) (3) จะเริ่มเห็นเหยี่ยวทะเลมากันหลายตัว เหยี่ยวพวกนี้รู้ว่าจะมีปลาลอยขึ้นบนเหนือน้ำ โดยมันจะรู้ล่วงหน้าเสมอ ลักษณะสีของมันจะออกน้ำตาลดำ เป็นสัตว์ปีกที่ยืนบนน้ำทะเลได้ (มันแข็งแรงมากเห็นที่ความเร็วพายุเป็น 100กม./ชมมันยังบินได้เฉย แต่พอลมขึ้นระดับไต้ฝุ่นแล้วพากันแอบตามซอกอาคารที่มุมอับลมเห็นมากับตา) แต่โดยปกติถึงไม่มีพายุก็จะมีลูกปลาเล็กๆที่พึ่งออกจากไข่เกาะกันลอยมาเป็นแพๆในบางช่วง แต่สภาพแวดล้อมไม่เหมือนกับก่อนมีพายุ

(4) จะรอดูฟ้าตอนเช้ามืดทางทิศตะวันออกหากสีแดงก่ำแล้วแสดงว่าจะมีการเกิดใหม่คือ ภูมิดนัย บุตรแห่งโลกคือดาวพระอังคาร ดูท้องฟ้าอีกทีหากยืดสูงขึ้นแสดงว่าเริ่มมีการยกตัวของอากาศต่ำ(ตัวL)  (5) คอยสังเกตุดู windsock ว่าเริ่มเอียงๆทวนเข็มนาฬิกาหรือเปล่า  หลังจากนั้นผ่านไป 2 วันทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามคาดการณ์  Angela เริ่มเกิดใหม่ เธอยังไม่ตาย  ในที่สุดลมก็เริ่มแรงขึ้น มีฝนตกเป็นางครั้ง แล้วก็หายไป แล้วก็มาใหม่ ตอนนั้นอยู่กับคุณ lord ลอร์ดเป็นเจ้าหน้าที่ห้องแล็ปของบริษัท UNOCAL ลอร์ดเป็นคนไทยแต่ไปอยู่อังกฤษ กลับมาเพื่อนเรียก ลอร์ด ผมก็ลอร์ดตาม  ลอร์ดมี เครื่องวัดลมชนิดมือถือด้วย เป็นชนิดมีใบพัดมีหน้าปัดเป็นเข็มตัวเลขมีด้ามจับพอถนัดมือ  ลองเปรียบเทียบกับบารอมิเตอร์ บนดาษฟ้าโดยเช็คกับห้องวิทยุแล้ว ค่าที่ได้ใกล้เคียงกัน  ผมกับลอร์ดชอบเหมือนกัน คือวันๆจะออกมาวัดลมเป็นช่วงๆ สนุกดี




ขณะนั้นสภาพอากาศก็อยู่ในภาวะแปร ปรวน มีเจ้าหน้าที่ บริษัทที่อบรมด้านอุตุฯมาคอยรายงาน ประกาศ เสียงตามสายเป็นระยะๆ และก็มีข่าวจากกรมอุตุฯที่ฐาน ผลิตปลาทองที่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 80 กม. คอยรายงานอากาศให้ทราบ  คือบางช่วงฝนจะตกหนักมากๆๆๆความเร็วลมประมาณ 60 กม./ชมบางช่วงฝนก็ซา บางทีลมก็ขึ้นไปถึง 100 กม./ชม เป็นอยู่อย่างนี้สัก 4 - 5 วัน พอวันหลังผมเอาเครื่องวัดคุณลอร์ดได้ถึง 110กม./ชม. คือต้องกอดเสาไว้ด้วยทั้งสองมือจึงจะวัดได้

เวลาเดินนี้สนุกดีที่มีที่ให้เกาะเยอะ  ขณะนั้นผมได้ตุนเสบียงไว้เยอะแล้ว หมูเห็ดเป็ดไก่ มาม่า กาต้มน้ำร้อน น้องๆคอยส่งเสบียงดูแลอย่างดี ตอนนั้นมีน้องเข้าเวรอยู่ด้วยไม่ยอมไปนอนที่ห้องนอนข้างบน คือนายเทพ ณรงรัตน์ คือเราจะคอยมอนิเตอร์ตลอดเวลา โดยเฉพาะระดับหัวหน้าแผนกต่างๆ ซึ่งก็มีเยอะเราจะประชุมกันตลอดเพื่อวางแผนรับมือ ผมก็โทร.ไปบอกเพื่อนที่สถานีฯดาวเทียมสุราษฎ์ให้เตรียมอพยพเข้าของหากพายุเข้าเละอีกแน่ๆ   เช็คดูข่าสารดูบนฝั่งภาคพื้นดิน ตอนนั้นเห็นที่ชายทะเลจังหวัดชุมพร  ผู้ว่าราชการจังหวัดนำประชาชนมา บนบานกับศาลกรมหลวงชุมพรฯ และพากันยิงปืนที่ชายทะเลกันเยอะมากคงจะเป็นการไล่พายุฯแล้วพอวันที่ 6 หลังจากเมื่อบ่ายๆวัดลมได้ถึง 110 กว่า พอหัวค่ำ ลมก็ค่อยๆลดลงเป็นดีเปรสชั่น เจ้าหน้าที่ๆอบรมอุตุฯออกมาประกาศว่า พวกเราดีใจกันไหม สบายใจกันได้แล้วขณะนี้พายุได้อ่อนกำลังลงไม่มีอันตรายใดๆแล้วนั้น ดูเหมือนทุกคนจะโล่งใจ เดินลุยฝนกันไปที่โรงอาหาร(ดีเปรสชั่นถือเป็นเรื่องเล็ก) เพื่อที่จะได้นั่งคุยโม้กันเหมือนว่าได้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไปแล้ว ตอนนี้สังเกตุดูภาพทางดาวเทียมจะมีพายุอีกลูก ขนาดใหญ่กว่า Angela กำลังจะเคลื่อนเข้าจีน อาจจะผลักตัวนี้ออกก็ได้


วันที่ 7 (14 พย) ลมทวีกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนเที่ยงขึ้นถึง 90 น็อท (150 กม./ชม) เจ้าหน้าที่ อุตุฯที่อบรมมา หนีหายเข้ากลีมเมฆ ไม่ได้ยินเสียงประกาศใดๆอีกเลย เช็คไปทาง ฐานปลาทองก็ลมที่โน่นไมแรงเท่าไหร่  ลมพัดแรงๆอยู่ราว 2 ชม.ก็อ่อนกำลังลง น้องเทพฯผมเอาที่โกยขยะได้น้ำรั่วน่าจะหลายโอ่ง ...

ทางกรมอุตุฯฐานปลาทองแจ้งว่าลมเคลื่อนไปทางทิศใต้ ไปที่แถวๆบริษัท TOTEL  ซึ่งเป็นบรืษัทของ ฝรั่งเศส   ไปวนอยู่แถวนั้น ไปทางใต้ถึงไหนไม่รู้

หลังจากวันนั้น พายุก็   ไปทางตะวันออก ลดระดับลงมาเป็นดีเปรสชั่น แล้วก็ขึ้น เหนือ มาบรรจบกับตำแหน่งเดิมตรงจุดแรกที่   หลุดจาก ประเทศ เวียดนามกลายเป็นความกดอากาศต่ำ แล้วพายุก็เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก เข้า จังหวัดเพชรบุรี ทะลุไปอันดามัน


ทวีกำลังแรงขึ้นมาใหม่ ไม่รู้เข้าอินเดียหรือบังคลาเทศ มีคนตายอีกหลายศพ  พายุ Angela ช่วงที่อยู่ในอ่าวไทย ผมได้ วาดเส้นทางเดินดูแล้วรูปที่ออกมาเหมือนรูป ลูกมะม่วงพันธ์เขียวเสวยเปีะ (เสียดายใช้คอมฯวาดรูปไม่เป็น) และเมื่อนั่งเฮลค็อปเตอร์ออกจากฐานผลิตฯออกมาจะพบน้ำทะเลในย่านนั้นรัศมีประมาณ 100 กม.สีออกขาวขุ่นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจากการนัง ฮ.เหมือนที่เคยผ่านๆอันเนื่องจากถูกพายุกวนน้ำอยู่อาทิตย์กว่า(น้ำลึกประมาณ 40-60 เมตรจากการดูข้อมูลจากบริษัท) ขอให้ท่านอ่านดูเล่นๆนะครับ เป็นเรื่องจริงแต่จำไม่ค่อยได้ละเอียดเท่าไหร่เพราะนานแล้วและคนรุ่นๆผมคงหาคนที่มานั่งเล่นคอมฯทำเวปเองคงหายากเอาการอยู่ (วันหลังนึกออกค่อยมาเสริมใหม่)                                                                          
                                                                 bananabrn 17 jan 2012    

                              พบกับเราได้ที่เฟสบุ๊ค : เตือนภัยพิบัติ (วิชาการ)


BX.in.th Bitcoin Exchange Thailand

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น