คลื่นกระแสลมตะวันออก จะกลับทางกับ คลื่นกระแสลมตะวันตก คือจะไหลจากตะวันออกไปตะวันตก เราจะมองเห็นด้าน troug (ขาขึ้น ด้านความชื้นเยอะด้านมีเมฆเยอะ) จะโค้งลงมาทางทิศใต้) ส่วนด้านขาลง (แห้งและเย็น) จะโค้งขึ้นทางทิศเหนือ เป็นด้าน Ridge // ดูแผนที่ความกดอากาศเท่า (isobar)ของกรมอุตุฯ
เพราะฉะนั้นที่แกน trough จะต้องสำพันธ์กับลมค้าทางใต้ เมื่อลมค้าทางใต้ ซึ่งเป็นอากาศหนาวจากซีกโลกใต้ โฉบเข้ามาปะทะ กับตำแหน่งคลื่นตรงแกน trough ของคลื่นกระแสลมตะวันออก ที่มีความชื้นอยู่มาก (กระแสอากาศขาขึ้น ) ความปั่นป่วน จากฝนฟ้าคะนอง จึงเกิดขึ้น เป็นลักษณะเดียวกับคลื่นกระแสลมตะวันตกนั่นเอง
ลักษณะที่สำคัญของคลื่นกระแสลมตะวันออก
คลื่นกระแสลมตะวันออก เป็นคลื่นยาว (Long Wave) ที่ปรากฏในลมค้า ทางตอนเหนือด้านตะวันตก ปกติจะปรากฏครั้งแรกในเดือนเมษายน หรือพฤษภาคม และเห็นไปถึงเดือนตุลาคมหรือพฤศิจกายน ที่ละติจูด 5 -15 องศาเหนือ มีช่วงคลื่น (Weave Length) 2,000 – 2,500 กม.(คลื่น 1 ลูก ) ปรากฏ ในช่วงเวลา 3 – 4 วัน และเคลือนที่ด้วยความเร็วประมาณ 18 –36 กม./ชม หรือเคลื่อนที่ประมาณ 5 – 7 องศาลองติจูด / วัน
โดยจะแรงขึ้นถ้าอยู่ใกล้ ITCZ (Intertropical Convergence Zone ) ในสัปดาห์หนึ่งจะ ปรากฏขึ้นประมาณ 2 ครั้ง โดยประมาณว่า 9 ใน 100 คลื่นนี้จะพัฒนาการเป็นพาุยหมุนเขตร้อน ซึ่งมีการศึกษาไว้ว่า ประมาณ 60% ของพายุในแถบมหาสมทรแอตแลนติก ที่มีความรุนแรงแรงเกิดจากคลื่นกระแสลมตะวันออกนี้
โดยจะแรงขึ้นถ้าอยู่ใกล้ ITCZ (Intertropical Convergence Zone ) ในสัปดาห์หนึ่งจะ ปรากฏขึ้นประมาณ 2 ครั้ง โดยประมาณว่า 9 ใน 100 คลื่นนี้จะพัฒนาการเป็นพาุยหมุนเขตร้อน ซึ่งมีการศึกษาไว้ว่า ประมาณ 60% ของพายุในแถบมหาสมทรแอตแลนติก ที่มีความรุนแรงแรงเกิดจากคลื่นกระแสลมตะวันออกนี้
คลื่นกระแสลมตะวันออก (Easterly wave)
แผนที่เส้นความกดอากาศเท่าของกรมอุตุฯ หากสังเกตุ ตัว L ว่าอยู่บริเวณไหนของคลื่น ..จะสามารถรู้ทิศทางลมได้ |
กระแสลมตะวันออก เป็นลมประจำถิ่นที่พัดบริเวณละติจูดต่ำหรือเขตร้อน โดยลมตะวันออกที่เคลื่อนผ่านแนวเทือกเขา แนวยกตัวของอากาศร้อนท้องถิ่น สามารถเกิดเป็นคลื่นได้ , ลมตะวันออกที่พัดอ่อนสลับกับแรงทำให้เกิดเป็นคลื่นได้ โดยเฉพาะบริเวณมหาสมุทร เมื่อกระแสลมตะวันออกมีความแรงมากพอก็ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวเหมือนคลื่น ทำให้เกิดอากาศปั่นป่วนเกิดแรงเหนี่ยวนำยกตัวทำให้เกิดเป็นกลุ่มเมฆฝน ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงและเป็นพายุหมุนเขตร้อนได้
คลื่นกระแสลมตะวันออก มีความเชื่อมโยงกับการเกิดพายุหมุนเขตุร้อนในแถบมหาสมทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก การเคลื่อนตัวของคลื่นผ่านบริเวณต่างๆ ในเขตโซนร้อนแหล่งกำเนิดคลื่นกระแสลมตะวันออกเริ่มก่อตัวที่ระดับความกดอากาศประมาณ 700 มิลลบาร์ (สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3.5 กม.) ในช่วงฤดูร้อนบริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก คลื่นอากาศนี้จะก่อตัว จากหย่อมความกดอากาศต่ํา แล้วค่อยๆเคลื่อนที่ผ่าน เวียดนาม ไทยพม่า และตอนบนของอ่าว เบงกอล และอาจเคลื่อนตัวต่อไปยังอินเดียและทะเลอาราเบียนด้านตะวันออก แล้วอ่อนกำลังลงที่บริเวณทะเลอาราเบียนด้านตะวันตก
หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวต่อไปยังบริเวณ ตอนเหนือของอัฟริกา เคลื่อนตัวผ่านไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก และบางครั้งอาจเคลื่อนตัวผ่านทวีปอเมริกาไปยัง มหาสมทรแปซิฟิกด้านตะวันออก แล้วอ่อนกำลังลงเนื่องจากอุณหภมิน้ำทะเลที่ต่ําในบริเวณนั้น และ เคลื่อนตัวต่อไปอีกจนถึงตอนกลางของมหาสมทรแปซิฟิก เป็นการครบรอบการเคลื่อนที่ ใน ระหวางการเคลื่อนที่ คลื่นอากาศจะมีการผันแปรอยางมากในแนว มีความรุนแรง ความยาวคลื่น ความเร็ว ในการเคลื่อนตัวและตำแหนงของเมฆและฝนในคลื่นอากาศที่อาณาาบริเวณตำแหน่ง Trough (ช่วงขาขึ้นของคลื่น )
โดยมีการพัฒนาเป็นลักษณะหมุนเวียนของอากาศเขาหาศูนยกลาง (Cyclonic) จนเป็นพายเฮอริเคนได้ สวนพายใต้ฝุ่น หลายลูกในเขตแปซิฟิกตะวันตก เชื่อกันว่ามีพัฒนาการจากคลื่นกระแสลมตะวันออกเช่นกัน
โปรดสังเกตุรูปคลื่นแผนที่ความกดอากาศผิวพื้น ในแต่ละฤดูกาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น