วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

น้ำค้าง

น้ำค้าง  (Dew) 
เกิดจาก ไอน้ำหรือความชื้นในอากาศที่จับตัวกันกลายเป็นหยดน้ำแล้วตกลงมาสู่พื้น น้ำค้างจะเกิดในเวลากลางคืน เเพราะเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิของอากาศในขณะนั้นต่ำ เมื่อถึงเวลากลางวันน้ำค้างที่หยดอยู่บนยอดหญ้า เมื่อได้รับแสงอาทิตย์จากก็จะระเหยไปหมด


น้ำค้างเป็นธรรมชาติที่ มหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง   เพราะว่ามันเกิดขึ้นได้ไม่ว่าเป็นฤดูร้อน   หนาว  ฝน  หรือฤดูใบไม้ผลิ   ในตอนเช้าตรู่เมื่อเราตื่นขึ้นมาก็จะเห็นหยดน้ำน้ำค้างเกาะอยู่ตามใบหญ้า  ใบไม้   และตามโลหะต่าง ๆ  เต็มไปหมด   เมื่อต้องแสงแดดในตอนเช้าจะทอแสงแวววาวสวยงามน่าดู   ยิ่งที่มันเกาะอยู่ตามรังของใยแมงมุมที่ขึงอยู่ตามต้นไม้จะเหมือนกับเพชร เม็ดเล็ก ๆ  ร้อยเป็นพวง   เป็นตาข่ายเกิดความงามอย่างน่ามหัศจรรย์   น้ำค้างใช่จะเกิดขึ้นเฉพาะเวลากลางคืนหรือเวลาย่ำรุ่งเท่านั้น   เพราะแม้แต่ในตอนเย็นก่อนที่พระอาทิตย์ตกดิน   บางโอกาสก็เกิดน้ำค้างเกาะอยู่ตามใบหญ้า   และใบไม้ด้วยเหมือนกัน

น้ำ ค้างเกิดขึ้นจากละอองไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศ   เพราะโดยปรกติแล้ว   น้ำมีการระเหยกลายเป็นไอแทรกซึมเข้าไปอยู่ในอากาศได้ทุกขณะ   ในเมื่อความชื้นของอากาศยังมีน้อยไม่ถึงจุดอิ่มตัว   แต่พออากาศอมเอาไอน้ำไว้ได้มากจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว   มันจะไม่ยอมรับไอน้ำที่ระเหยอีกต่อไป   นอกจากนั้นแล้วมันก็จะ  คาย ไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศก่อนแล้วนั้นออกไปเสียด้วย   จุดที่ไอน้ำในอากาศจับตัวเกาะเป็นหยดน้ำเล็ก ๆ  นี้เรียกว่า  "จุดน้ำค้าง"(Dew   Point)  และจุดน้ำค้างนี้   เปลี่ยนแปลงไปได้ตามลักษณะของอุณหภูมิของอากาศ   ความกดดัน   และปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศ

ในบางครั้งหยดน้ำที่เกาะ ตัวนี้   ยังลอยอยู่ในอากาศเป็นจำนวนมาก   ทำให้เกิดฝ้าหนาทึบ   เราเรียกว่า  "หมอก"   ซึ่งเมื่อถูกความร้อนในตอนเช้า   หมอกนี้จะค่อยละลายตัวออกไปเป็นไอน้ำปะปนแทรกซึมอยู่ในอากาศเช่นเดิม

ความ ชื้นของไอน้ำในอากาศนอกจากจะทำให้เกิดน้ำค้างและหมอกขึ้นแล้ว   ยังมีส่วนสัมพันธ์กับอุณหภูมิของลมฟ้าอากาศอีกด้วย   วันใดถ้าอากาศมีความชื้นมาก   แม้แดดจ้า   และมีอุณหภูมิร้อนจัดเช่นอยู่ในฤดูร้อนเป็นต้น   เราจะตากผ้าแห้งช้า   แต่ตรงกันข้ามถ้าวันใดอากาศมีความชื้นน้อย   แม้ฝนจะตกหรือเป็นเวลากลางคืนก็จะตากผ้าแห้งได้เร็ว  

 น้ำ ค้างแข็ง (frost) หรือ แม่คะนิ้ง เป็นปรากฎการทางธรรมชาติเมื่อมีอากาศหนาวจัดจะทำให้น้ำค้างที่อยู่บนยอดหญ้า เกิดแข็งตัวเป็นเก็ดน้ำแข็ง(ส่วนมากเกิดบนย่อดดอยในฤดูหนาว)




น้ำ ค้างแข็ง เป็นปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของ บรรยากาศซึ่งจะไม่ปรากฏขึ้นในทุกภาคของประเทศไทย แต่มักจะพบมากในช่วงฤดูหนาวบนยอดดอยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาษาถิ่นเหนือเรียกน้ำค้างแข็งว่า  เหมยขาบ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกว่า แม่คะนิ้ง

1.  ลักษณะทั่วไป  :  จะมีลักษณะเป็นเกล็ดน้ำแข็งขาวๆ   จับตัวตามใบไม้   ยอดหญ้าหรือวัตถุต่างๆใกล้ๆ กับพื้นดิน



 
2.   กระบวนการเกิดปรากฏการณ์การเกิดน้ำค้างแข็ง   มี   2  แบบด้วยกัน   คือ

 2.1  การเกิดน้ำค้างแข็งโดยตรง   จะเกิดในช่วงที่อุณหภูมิของอากาศใกล้ผิวโลกลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

 2.2 การเกิดน้ำค้างแข็งโดยอ้อม    เกิดเมื่ออุณหภูมิอากาศลดต่ำลงโดยมีปริมาณความชื้นใกล้พื้นดินสูง

3  .สถานที่ปรากฏการณ์ของการเกิดน้ำค้างแข็งในประเทศไทย 
 มักจะเกิดบนดอยหรือภูเขาสูงในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ  เช่น  เชียงใหม่  เชียงราย  แม่ฮ่องสอน  และเลย          
  
แม่คะ นิ้ง 
เป็นคำจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือเรียกว่า เหมยขาบ คือผลึกน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเนื่องจาก ไอน้ำในอากาศใกล้ผิวดินลดอุณหภูมิลงถึงอุณหภูมิจุดน้ำค้าง แล้วกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ต่อจากนั้นอุณหภูมิยังคงลดต่อไปอีก จนต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ทำให้น้ำค้างแข็งตัว กลายเป็นน้ำค้างแข็ง ซึ่งจะทำความเสียหายแก่พืชไร่และผักต่าง ๆ เช่น ข้าวที่กำลังออกรวงก็จะมีเมล็ดลีบ พืชไร่จะชะงักการเจริญเติบโต พืชผักใบจะหงิกงอ ไหม้เกรียม กล้วย มะพร้าวและทุเรียนใบจะแห้งร่วง ถ้าเกิดติดต่อกันหลายวัน ก็จะทำความเสียหายแก่พืชที่ปลูกได้มากขึ้น น้ำค้างแข็ง

ในเมืองไทยสามารถพบเห็นได้ตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศหนาวจัด ส่วนมากจะเกิดในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม

 แต่ดร.บัญชา ธนบุณสมบัติ  ผู้ก่อตั้งจากชมรมคนรักมวลเมฆ ในเฟสบุ๊ค บอกว่า แม่คะนิ้ง (hoar frost) กับ น้ำค้างแข็ง (frozen dew) ไม่เหมือนกันนะครับ 


วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ความถี่วิทยุสื่อสาร

อับเดท 25 กพ. 2558 จากศูนย์ข่าว ธุลีนิวส์
รายชื่อศูนย์กู้ภัย ความถี่ และเบอร์โทรศัพท์

หน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี  151.940 Mhz  035-564-888
สว่างสระเเก้ว สระเเก้ว 151.770 mhz
ศูนย์โกเมน สระเเก้ว 157.410 mhz
กู้ภัยวัฒนานคร สระเเก้ว 154.410 mhz
สว่างเที่ยงธรรม อรัญประเทศ 148.990 mhz
สว่างรัตนตรัย สระบุรี 168.475 mhz
ร่วมกตัญญู สระบุรี 151.930 mhz
สว่างเมตตา นครราชสีมา 168.275 mhz
ฮุก 31 นครราชสีมา 156.120 mhz
กู้ภัยปักธงชัย นครราชสีมา 149.390 mhz
ร่วมกตัญญู นครราชสีมา 151.930 mhz
สว่างวิชา ปากช่อง 168.475 mhz

กู้ภัยพิมาย พิมาย 154.900 mhz
สว่างจรรยา บุรีรัมย์ 145.875 mhz
สว่างโรจนธรรม บุรีรัมย์ 151.440 mhz
กู้ภัยนางรอง บุรีรัมย์ 151.390 mhz
สุรินทร์สามัคคี สุรินทร์ 168.275 mhz
สว่างเมตตา (จ.นครราชสีมา) 168.2750 โทรศัพท์ 044-230888
สว่างวิชชา (ปากช่อง จ.นครราชสีมา) 168.4750 โทรศัพท์ 044-312259
สว่างแสงธรรม (สูงเนิน จ.นครราชสีมา) 168.4750 โทรศัพท์ 044-419213
พุทธธรรม 31 (ฮุก 31) (จ.นครราชสีมา) 168.7750 โทรศัพท์ 044-274155
144.9000
245.0000
กู้ภัยพรหมธรรม (สีคิ้ว จ.นครราชสีมา) 168.4750
สว่างจรรยา (จ.บุรีรัมย์) 168.4750 โทรศัพท์ 044-614033


กรุงเทพ (ปอเต็กตึ้ง) 168.2750 โทรศัพท์ 02-2250020, 02-2264444-5
ปอเต็กตึ้ง ชานธน 164.4300                                                  
ปอเต็กตึ้ง เอกราช 168.5150
พระนคร (ร่วมกตัญญู) 168.7750 โทรศัพท์ 02-7510951-3
สยามรวมใจปู่อินทร์ (กรุงเทพฯ) 158.3700 โทรศัพท์ 02-735-8191
กู้ชีพศรีวิชัย 167.6400                                                          
มูลนิธิกู้ชีพร่มไทร มีนบุรี 156.1600
สยามรวมใจปู่อินทร์ (นนทบุรี) 158.3000 โทรศัพท์ 02-9232001

สว่างประทีป (ศรีราชา จ.ชลบุรี) 168.7750 โทรศัพท์ 038-310319
เพียวเยี่ยงไท้ (ศรีราชา จ.ชลบุรี) 149.5250
ไตรคุณธรรม (อ.เมือง จ.ชลบุรี) 166.2850 โทรศัพท์ 038-272201, 038-273706
ธรรมรัศมีมณีรัตน์ (กู้ภัยมังกร จ. ชลบุรี) 162.6750
สว่างศีลธรรม (บ้านบึง จ.ชลบุรี) 168.7750 โทรศัพท์ 038-444304
สว่างศีลธรรม (จุดบ่อวิน จ.ชลบุรี) 165.7750
สว่างเหตุ (พนัสนิคม จ.ชลบุรี) 168.4750 โทรศัพท์ 038-466100
สว่างอุทยาน (พานทอง จ.ชลบุรี) 168.7750 โทรศัพท์ 038-451160
สว่างบริบูรณ์ (พัทยา จ.ชลบุรี) 168.4750 โทรศัพท์ 038-222474
สว่างโรจนะ (สัตxxบ จ.ชลบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 038-738472
สว่างพรกุศล (จ.ระยอง) 168.2750 โทรศัพท์ 038-611332
สว่างพรกุศล (จุดบ้านค่าย จ.ระยอง) 149.7300
ร่วมกตัญญู (จุดบ้านค่าย จ.ระยอง) 164.7400
ร่วมกตัญญู (จุดวังจันทร์ จ.ระยอง) 161.9600                                  
สยามรวมใจปู่อินทร์ (จ.ระยอง) 158.3700 โทรศัพท์ 038-877093
กู้ภัยปลวกแดง (ปลวกแดง จ.ระยอง) 160.8200
กู้ภัยวังจันทร์ (วังจันทร์ จ.ระยอง) 161.8600                                      
กู้ภัยปู่ทิม (มาบตาพุต จ.ระยอง) 154.7100                                     
พุทธธรรมสงเคราะห์ (บ้านฉาง จ.ระยอง) 168.7750 โทรศัพท์ 038-601143
245.1500

พุทธศาสตร์สงเคราะห์ (อ.แกลง จ.ระยอง) 168.4750 โทรศัพท์ 038-884360
กู้ภัยลูกแก้ว (มังกร จ.ระยอง) 161.9600
ร่วมกตัญญู (อ.บ้านค่าย จ.ระยอง) 164.7400                                   
สว่างกตัญญู (จ.จันทบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 039-346347
สมาคมสงเคราะห์การกุศล (จ.ฉะเชิงเทรา) 168.4750 โทรศัพท์ 038-511410
สว่างศรัทธาธรรม (จ.ฉะเชิงเทรา) 168.4750
สว่างบำเพ็ญ (จ.ปราจีนบุรี) 168.4750 โทรศัพท์ 037-214456
สว่างสัจจะ (อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 037-281113
ร่วมกตัญญู (จ.ปราจีนบุรี) 161.8600                                           
สว่างอริยะ (จ.นครนายก) 168.2750 โทรศัพท์ 037-302096
ร่วมกตัญญู (จ.นครนายก) 161.8450
 สว่างสระแก้ว (จ.สระแก้ว) 168.2750 โทรศัพท์ 037-243030
สว่างเที่ยงธรรม (อรัญประเทศ จ.สระแก้ว) 168.4750 โทรศัพท์ 037-232899

สว่างรัตนตรัย (จ.สระบุรี) 168.4750 โทรศัพท์ 036-211047
ปอเต็กตึ้ง (จ.สระบุรี) 158.1200 โทรศัพท์
มูลนิธิอริโย (อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 036-629222-3
สมาคมอยุธยารวมใจ (จ.อยุธยา) 168.2750 โทรศัพท์ 035-252462
ร่วมกตัญญู (จ.อยุธยา) 161.7750                                              
ปอเต็กตึ้ง (จุดวังน้อย จ.อยุธยา) 162.5750
ร่วมกตัญญู (จ.เพชรบูรณ์) 151.9300                                         
สว่างกำแพงเพชร (จ.กำแพงเพชร) 143.0600 โทรศัพท์ 055-711551
กู้ภัยอุทัยธานี (จ.อุทัยธานี) 158.0350                                            
กู้ภัยข่าวภาพ (จ.พิษณุโลก) 161.8600
กู้ภัยบรูพา (จ.พิษณุโลก) 168.4750
กู้ภัยนครสวรรค์ (จ.นครสวรรค์) 147.3800
กู้ภัยข่าวภาพ (จ.พิจิตร) 164.7400 โทรศัพท์ 086-2060-016, 089-7031-818
ปอเต็กตึ้ง (จ.พิจิตร) 156.2500                                              

กู้ภัยนครปฐม (จ.นครปฐม) 168.4750                                        
มูลนิธิเสมอกันกู้ภัย (จ.สุพรรณบุรี) 168.4750 โทรศัพท์ 035-561555, 035-561444
ว.32 168.2300
ว.33 168.4050
กู้ภัย กาญจนบุรี (จ.กาญจนบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 089-0307-576, 081-2513-862
ขุนรัตนาวุธ (ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี) 150.6000 โทรศัพท์ 034-612766
ว.32 151.1100
ว.33 156.0800
สว่างราชบุรี (โพธาราม จ.ราชบุรี) 168.7750 โทรศัพท์ 032-233733
มูลนิธิประชานุกูล (จ.ราชบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 032-337187
รวมใจการกุศล (อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 032-353350
ปฐมบรมราชานุสรณ์ (จ.ราชบุรี) 168.4750 โทรศัพท์ 032-319415
สว่างสรรเพชญ (จ.เพชรบุรี) 168.2750 โทรศัพท์ 032-425187
กู้ภัย อปพร.เขาหลวง (จ.เพชรบุรี) 162.7750

สว่างเบญจธรรม (จ.สมุทรสงคราม) 168.7750 โทรศัพท์ 034-723623
การกุศลสมุทรสาคร (กู้ภัยศรีสมุทร จ.สมุทรสาคร) 168.4750 โทรศัพท์
สว่างประจวบ (จ.ประจวบคีรีขันธ์) 149.8900 โทรศัพท์ 032-611445
สว่างราษฎร์ศรัทธา (บางสะพาน จ.ประจวบฯ) 144.9000 โทรศัพท์ 032-691568
สว่างแผ่ไพศาล (ปราณบุรี จ.ประจวบฯ) 168.7750 โทรศัพท์ 032-540438
สว่างเมธี (สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ) 168.2750 โทรศัพท์ 032-688910
สว่างรุ่งเรือง (ทับสะแก จ.ประจวบฯ) 144.9000 โทรศัพท์ 032-671128
สว่างหัวหิน (หัวหิน จ.ประจวบฯ) 168.4750                                      
มูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ (จ.ประจวบฯ) 168.7750

สมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้ (จ.อุตรดิตถ์) 168.2750                                
มูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ (จ.อุตรดิตถ์) 168.4750
ตากร่วมใจสงเคราะห์ (จ.ตาก) 168.7750 โทรศัพท์ 055-517475
สยามรวมใจปู่อินทร์ (จ.เชียงราย) 158.3700 โทรศัพท์ 053-712466
กู้ภัยสำเร็จ (อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่) 168.7750 โทรศัพท์ 053-867641
กู้ภัยรวมใจ (จ.เชียงใหม่) 168.2750                                             
กู้ภัยพิเศษพิงค์นคร (จ.เชียงใหม่) 162.8000 โทรศัพท์ 053-904989
มูลนิธิรวมใจ อปพร. (จ.เชียงใหม่) 168.2750                                    
กู้ภัยสารภี (จ.ลำพูน) 162.4750                                            

สว่างคุณธรรม (จ.ชัยภูมิ) 168.2750 โทรศัพท์ 044-811037
สว่างพุทธธรรม (แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ) 168.2750 โทรศัพท์ 044-831192
สว่างแดนดิน (สว่างแดนดิน จ.สกลนคร) 168.4750 โทรศัพท์ 042-721504
พุทธธรรมสว่างสามัคคี (สว่างแดนดิน จ.สกลนคร) 162.8500 โทรศัพท์ 042-721559
สว่างคงคา (จ.หนองคาย) 168.4750 โทรศัพท์ 042-420999
144.9000

สว่างคีรีธรรม (จ.เลย) 168.2750 โทรศัพท์ 042-812094
สว่างเมธา (จ.อุดรธานี) 168.2750 โทรศัพท์ 042-245463
กู้ภัยเมืองพล (จ.ขอนแก่น) 162.8000 โทรศัพท์ 043-418458
VR กู้ภัยมิตรภาพเมืองพล (จ.ขอนแก่น) 145.1250 โทรศัพท์ 089-2775287
245. (74)                                                                   
กู้ภัยบุญทันตา (จ.ขอนแก่น) 144.9500 โทรศัพท์ 043-243690, 043-470734
สว่างจิตต์ (จ.ศรีสะเกศ) 168.2750 โทรศัพท์ 045-612076
สว่างบูชา (วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี) 168.2750 โทรศัพท์ 045-269444
มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี  168.475 Mhz รับผิดชอบ อ.เมือง และ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
081-5793615
กู้ภัยธงแดง (จ.มุกดาหาร) 145.6000                                        
สมาคมแสงธรรมรัตน์การกุศล (จ.ร้อยเอ็ด) 168.2750 โทรศัพท์ 043-525145

มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ (ศูนย์สายชล จ.ชุมพร) 168.2750 โทรศัพท์ 077-502861
มูลนิธิรักศีลธรรม (ปากน้ำ จ.ชุมพร) 168.7750                                    
กู้ภัยพุทธประทีป (หลังสวน จ.ชุมพร) 144.9000
สยามรวมใจปู่อินทร์ (จ.พังงา) 158.3700 โทรศัพท์ 089-7308669
สยามรวมใจปู่อินทร์ (จ.สุราษธานี) 158.3700
มูลนิธิกุศลศรัทธา (จ.สุราษธานี) 144.9000
สยามรวมใจปู่อินทร์ (สยามจุฬา จ.นครศรีธรรมราช) 158.3700 โทรศัพท์ 075-308558
เมตตาธรรม (ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช) 144.9000
ประชาร่วมใจ (จ.นครศรีธรรมราช) 168.2750 โทรศัพท์ 075-345599
มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง (จ.นครศรีธรรมราช) 154.6500
สยามรวมใจปู่อินทร์ (จ.ตรัง) 158.3700                                        
สยามรวมใจปู่อินทร์ (จ.พัทลุง) 158.3700
มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ศูนย์มิตรภาพ จ.สงขลา) 168.7750
กุศลธรรม (จ.ภูเก็ต) 168.2750
144.9000

มูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา (จ.กระบี่) 161.8600 โทรศัพท์ 075-632326
เมตตาธรรม (จ.นราธิวาส) 168.2750 โทรศัพท์ 073-511515
มูลนิธารน้ำใจ สุไหงโก-ลก (จ.นราธิวาส) 168.7750
มูลนิธิแม่กอเหนี่ยว (จ.ยะลา) 168.7750
หน่วยกู้ภัยเบตง (อ.เบตง จ.ยะลา) 168.4750
มูลนิธิร่วมบำเพ็ญกุศล (จ.ปัตตานี) 168.7750

กู้ชีพ ลพบุรี 155.475
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.ลพบุรี 161.975
มูลนิธิอริโย บ้านหมี่ 168.275
สมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์. 151.840
มูลนิธิพุทธธรรมสงเคราะห์ พ้งไล้เกาะ 16 161.870
มูลนิธิเพื่อการกุศลหนองม่วง 149.440

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การใช้งานแอ๊บวีอาร์ ZELLO

วีอาร ออนสมาร์โฟน หรือวิทยุสื่อสารบนโทรศัพท์มือถือ ความปลอดภัยอีกชั้นของคนปัจจุบัน  สัตว์ร้ายเข้าบ้าน รถหาย ไฟไหม้ โจรเข้าบ้าน ฯลฯ กดวิทยุส่งข่าวถึง กู้ภัย ตำรวจ ร่วมด้วยช่วยกัน ฯลฯ ทันที

การใช้ ตั้งค่าและแก้ไข
ZELLO 1-18 ขั้นตอน

ข้อมูลจากคุณ Pattaralap Kumhongsa 
1. โหลด APP ZELLO
2. ตั้งข้อมูลส่วนตัว
3. การตั้งค่า
4. ทดสอบเสียงด้วยตนเอง
5. การตั้งเสียง
6. การค้นหาเพื่อนหรือกลุ่ม
7. การรับ-ลบเพื่อนและกลุ่ม
8. เปลี่ยนชื่อเพื่อน
9. วิธีตั้ง ปุ่มกดส่ง Ptt และ หูฟัง
10. การตั้งกลุ่ม
11. การใส่ดาว เพื่อนในกลุ่ม
12. การรับ-ส่ง SMS
13. การเก็บ ลบและแชร์เสียง
14. การแก้ Buzy คือส่งได้ รับไม่ได้
15. การค้นหาลิ้ง
16. การแชร์ลิ่ง
17. การส่งรูป
18. การเชิญเพื่อนเข้ากลุ่ม




1. โหลด APP ZELLO จาก Play สโตร์
-ใส่ อีเมล พาสเวิร์ด ชื่อ (ชื่อจะแก้ไม่ได้)    - กด Invite-รอ CONFIRM E-MAIL
-ตรวจสอบ แล้วกด SAVE      -  เวลาจะพูด กดคีร์ตรงกลางวงกลมสีเหลืองที่มีรูปไมค์ค้างไว้ พูดเสร็จก็ปล่อยนะครับ - เวลามีคนพูดมา วงกลมจะเป็นสีแดงครับ  - เปิด/ปิด เสียงที่โทรฯด้านข้างครับ
* หรือแตะลิ้งค์สีฟ้านี้ ได้เลยครับ
http://zello.com/app.htm เลืือกประเภทอุปกรณ์ ให้ตรงกับของท่านครับ

2. ตั้งข้อมูลส่วนตัว
-เข้าการตั้งค่า -กด Option  -กด Profile  -กด EDIT รูปดินสอบนขวา -กดรูปกล้องใต้รูป หารูปมาใส่หรือถ่ายสดก็ได้  -ใส่ข้อมูลตามช่องว่างต่างๆ  *กดเซฟ* บนขวาอีกครั้งครับ

3. การตั้งค่า *การแก้ Status*
-กด Options  -กด Status เลือก
*Available คือพูดและฟังได้ทุกช่อง  *Solo คือการเปิดเฉพาะช่องที่สนทนา เท่านั้น
*Buzy คือปิดเสียงเข้า ฟังไม่ได้ จะบันทึกเทปไว้ แต่พูดได้


4. ทดสอบเสียงด้วยตนเอง
กด รูปคน 1 คน  : กด Z acho
กด คีย์แล้วพูดปกติ เมื่อปล่อยคีย์แล้ว จะรีวายเทปให้เราฟัง

5. การตั้งเสียง
กด ตั้งค่า  -กด Option แตะและลากขึ้นไป  : กด Under the hood แตะและลากขึ้นไปจนพบ
AUDIO ข้างล่างมีเส้นสีฟ้า 2 เส้น
*Playback amp คือเสียงเข้า
*Recording amp คือเสียงออก

6. การค้นหาเพื่อนหรือกลุ่ม
 เข้าหน้าแรก จะมีรูป
*นาฬิกา=ประวัติการใช้  * คน 1 คน=เพื่อน  * คน 3 คน=กลุ่ม
กด คนตามที่ต้องการ  : กด คน+  : ใส่ชื่อหรือ ID ของคนหรือกลุ่มที่จะหา ดูชื่อให้ถูกต้อง
กด ที่ชื่อเขา  : กด +ACCEPT ใต้ชื่อ ครับ

 7. การรับ-ลบเพื่อนและกลุ่ม
*** รับ ***
ตรงวงกลมสีเขียวที่มีเครื่องถูก จะมีจุดสีแดงขึ้น=มีคนมาขอ
เข้าหน้าแรก ดูรูปคน อันไหนมีจุดสีแดง กดเข้าไปจะพบ
*เพื่อน Contact requests  *กลุ่ม Channal invites
วงกลมสีแดงจะมีตัวเลขอยู่ กดดูครับ


*** ลบ ***
ลบเพื่อน กด เพื่อน  ลบ กลุ่ม กด กลุ่ม
แตะชื่อค้างใว้ : กด Delete contact

8. เปลี่ยนชื่อเพื่อน กลุ่มเปลี่ยนชื่อไม่ได้(ยกเว้นคนตั้งกลุ่ม)
กด คน 1คน
กด เพื่อนค้างใว้   : กด Rename contact    แก้ชื่อ   : Ok

9. วิธีตั้ง ปุ่มกดส่ง Ptt และ หูฟัง
-เข้าการตั้งค่า - กด Option  -กด Under the hood  - กด Clear
-ดูที่ Hard botton action ตรงนี้กดเปลี่ยน

*Hold to talk คือกดค้างแล้วพูด
*Toggle คือกดปล่อยแล้วพูด พูดแล้วกดปิดอีกครั้ง
-กด Map  - กดปุ่มที่ท่าน ต้องการให้เป็น ปุ่มกดส่ง Ptt
*** ใส่หูฟัง

-กด Map แล้วกดปุ่ม Mic

-ใส่เครื่องหมายถูก
ที่ช่อง Handle headset buttons when in the background
-กด ออก

10. การตั้งกลุ่ม
-กด กลุ่ม   -กด 3 คน+ ( บนสุดขวา หน้า เลนส์ Find )   - กด Creat a new channel   - ใส่ข้อมูล
-กด Create

11. การใส่ดาว เพื่อนในกลุ่ม
เพื่อให้ช่วยดูแลกลุ่ม สามารถนำคนที่ไม่พึงประสงค์ ออกจากกลุ่มได้
-กด เลือกกลุ่มที่เราเปิด  - กด คน 2 คน หาชื่อคนที่ต้องการใส่ดาวให้  - แตะที่รูป ใส่ดาว
- กด ออก

12. การรับ-ส่ง SMS
 การรับข้อความ
-ตรงเครื่องหมายถูก ในวงกลมสีเขียว จะขึ้นจุดสีแดง
-กดเข้าไปตรงสีแดง มัันจะเข้าไปที่ ห้องของผู้ส่งมา
-กดลูกศรวงกลมขวามือบน ใกล้รูปไมค์โคโฟน จะเห็นข้อความครับ

*** การตอบกลับ ***
-กดไมค์์โครโฟน  - กดรูปสมุดบันทึก ขวามือ  - เขียนข้อความ
-กดส่ง

*** การส่งข้อความ ***
-เข้าห้องของคนที่ต้องการส่่ง    - กดขวามือที่เป็นรูป สมุดบันทึก   - เขียนข้อความ
- กดส่ง

13. การเก็บ ลบและแชร์เสียง
-กด เพื่อนหรือกลุ่ม ที่ต้องการ   -กด รูปนาฬิกา ประวัติการคุยจะขึ้นมา     - เลือก แชร์หรือลบ
- เลือก ข้อความ   - กด แชร์  - เลือก จุดที่ต้องการส่ง

*Text message
-ก๊อปปี้ ข้อความทั้งหมด  - กด ออกๆๆ ไปหาที่ๆต้องการจะวางข้อความ   *ตรงนี้ใส่หัวข้อได้*
-วางและส่ง

14. การแก้ Buzy คือส่งได้ รับไม่ได้
-เปิดเสียง MEDIA ที่เครื่องโทรศัทพ์
-ดูการตั้งค่า ข้อ 3

 15. การค้นหาลิ้ง
เข้าเว็บ http://zello.com/channels/ชื่อช่องที่ต้องการค้นหา
หรือ  -  http://zello.com/channels

-พิมพ์ชื่อช่องที่ต้องการค้นหาครับ -เลือกช่อง  -กดตั้งค่า  -แชรผ่าน เลือกที่ที่จะว่าง เพื่อตกแต่งข้อมูล
-แก้ไข ตกแต่ง เพื่อเติมข้อมูล  -ก๊อปปี้หรือแชร์ลิ้ง ไปวางในหน้าที่ต้องการ

16. การแชร์ลิงค์
-เลือกช่องกลุ่มที่ต้องการ    -แตะที่รูปโปรฟาย
-กดแชร์ (จุด3จุดที่เชื่อมต่อกัน)  -เลือก Email  -เลือก Gmail
-ก๊อปปี้ ข้อความทั้งหมด แล้วออกจาก Zello   -เลือกที่จะว่างหรือส่งลิ้งค์

17. การส่งรูป
เข้าไปในห้องส่วนตัวของเพื่อน จะพบว่ามีรูปกล้องถ่ายรูป อยู่ใต้รูปของเพื่อน (คนไหนอัพเวอร์ชั่นใหม่แล้วรูปกล้องใต้ภาพจะสว่างขึ้น)
-กดตรงกล้องแล้วถ่ายรูปค้างใว้
-เลือกจะถ่ายรูปหรือจะเอารูปจาก แกลเลอรี่
-กดรูปที่ต้องการส่ง (รูปจะถูกส่งไปทันที)
-รูปจะไปปรากฎใน ประวัติการคุย

*** ส่งได้เฉพาะบุคคล กลุ่มใช้ไม่ได้
รูปที่ส่งไปแล้ว ต้นทางลบรูปออก ปลายทางรูปจะคงอยู่ ไม่ถูกลบด้วยนะครับ

18. การเชิญเพื่อนเข้ากลุ่ม
-กด กลุ่มที่ต้องการเชิญ  - กด รูปคน 2 คน บนขวา  -กด รูปคน+
-เลือกเพื่อน โดยกดที่ชื่อเพื่อน ตามต้องการ  -กด INVITE
-รอให้เพื่อนรับกลุ่ม ***    ( ถ้ามีพาสเวอร์ด ต้องแจ้งเพื่อนด้วยครับ ) ...../จบ



zello thai ขอเชิญ แฟนเพจ เช้าร่วมกลุ่มไลน์กลุ่ม zello thai สอบถามพูดคุย ปัญหาต่างๆได้ ครับ

http://line.me/R/ti/g/Zd0l59HABS

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โค๊ตวิทยุสื่อสาร

โค๊ตและความหมาย โค๊ดวิทยุ สื่อสาร
ว.0 คำสั่ง
ว.00 คอยก่อน
ว.1 อยู่ที่ไหน
ว.2 ได้ยินหรือไม่
ว.3 ทวนข้อความอีกครั้ง(ได้ยินไม่ชัด)
ว.4 ปฏิบัติหน้าที่
ว.5 ราชการลับ
ว.6 พูดติดต่อโดยตรง
ว.7 ขอความช่วยเหลือ
ว.8 ข่าวสาร / ข้อความ
ว.9 มีเหตุฉุกเฉิน
ว.10 อยู่ประจำที่
ว.11 หยุดพัก ติดต่อทาง ว. ได้
ว.12 หยุดพัก ติดต่อทาง ว. ไม่ได้
ว.13 ติดต่อทางโทรศัพท์
ว.14 เลิกปฏิบัติหน้าที่
ว.15 ให้ไปพบ / ให้มาพบ
ว.16 ทดสอบสัญญาณวิทยุ
  ว.16-1 รับได้แต่เสียงรบกวนมาก
  ว.16-2 รับได้เสียงไม่ชัดเจน
  ว.16-3 พอรับฟังได้
  ว.16-4 รับฟังชัดเจนดี
  ว.16-5 รับฟังชัดเจนดีมาก
ว.17 มีอันตรายห้ามผ่าน
ว.18 รถเสีย
ว.19 อยู่ในภาวะคับขัน / ถูกโจมตี
ว.20 ตรวจค้น / จับกุม
ว.21 ออกจาก(สถานที่)
ว.22 ถึง(สถานที่)
ว.23 ผ่าน(สถานที่)
ว.24 แจ้งเวลา / ต้องการทราบเวลา
ว.25 ที่หมาย / จุดหมาย

โค้ด ความหมาย
ว.26 ติดต่อทางวิทยุให้น้อยที่สุด อาจถูกดักฟัง
ว.27 ติดต่อทางโทรพิมพ์
ว.28 ประชุม
ว.29 มีธุระ / มีราชการ
ว.30 ขอทราบจำนวน
ว.31 ความถี่ช่องที่ 1(แล้วแต่กำหนด)
ว.32 ความถี่ช่องที่ 2(แล้วแต่กำหนด)
ว.33 ความถี่ช่องที่ 3(แล้วแต่กำหนด)
ว.34 ความถี่ช่องที่ 4(แล้วแต่กำหนด)
ว.35 เตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่
ว.36 เตรียมพร้อมเต็มอัตรา
ว.37 เตรียมพร้อมครึ่งอัตรา
ว.38 เตรียมพร้อม 1 ใน 3
ว.39 จราจรติดขัด
ว.40 อุบัติเหตุรถชน
ว.41 สัญญาณไฟจราจรเสีย
ว.42 ขบวนยานพาหนะ
ว.43 ตั้งจุดตรวจ
ว.44 โทรสาร


เปลี่ยน ใช้ตอนจบข้อความให้อีกฝ่ายทราบ
01 ที่ทำงาน
02 บ้านพัก
ว.50 รับประทานอาหาร
ว.60 เพื่อน / ญาติ
ว.61 ขอบคุณ
ว.62 ของฝาก / พัสดุ
ว.63 บ้านพัก



  banabrn & brnbkk.Zello radio

รหัสที่ใช้ในการแจ้งเหตุ
โค้ด(เหตุ)    ความหมาย                             
เหตุ 100     มีเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน
เหตุ 111     ลักทรัพย์                                    
เหตุ 121     วิ่งราวทรัพย์                                
เหตุ 131     ชิงทรัพย์                                    
เหตุ 141     ปล้นทรัพย์  
                             
                                  โค้ด(เหตุ)    ความหมาย
เหตุ 200     มีเหตุประทุษร้ายต่อร่างกาย             
เหตุ 201     เพลิงไหม้หญ้า                           
เหตุ 202     ไฟฟ้าลัดวงจร                             
เหตุ 203     เพลิงไหม้ยานพาหนะ   
เหตุ 204     เพลิงไหม้ (บ้าน ชุมชน อาคาร....)   
เหตุ 205    เพลิงไหม้อาคารเก็บเชื้อเพลิงสารเคมี   
เหตุ 206    เพลิงไหม้อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่   
เหตุ 211    ทำร้ายร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ
เหตุ 221    ทำร้ายร่ายกาย ได้รับบาดเจ็บ
เหตุ 231    ทำร้ายร่ายกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุ 241    ฆ่าคนตาย
เหตุ 300    การพนัน
เหตุ 501    วัตถุต้องสงวัยเกี่ยวกับระเบิด
เหตุ 511    ได้เกิดระเบิดขึ้นแล้ว
เหตุ 512    วัตถุระเบิดตรวจสอบแล้วไม่ระเบิด
เหตุ 600    นักเรียนจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท
เหตุ 601    นักเรียนรวมกลุ่มมีสิ่งบอกเหตุเชื่อว่าจะก่อเหตุ
เหตุ 602    นักเรียนก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว
เหตุ 603    นักเรียนยกพวกก่อเหตุทำร้ายกันและกัน
เหตุ 604    นักเรียนยกพวกก่อเหตุทำร้ายกันถึงความตาย
เหตุ 605    นักเรียนยกพวกก่อเหตุทำร้ายกันมีวัตถุระเบิด

ศัพท์ที่ควรรู้
คำศัพท์    ความหมาย
CONTACT    ขอเข้าร่วมใช้ความถี่ ที่คู่สถานีกำลังติดต่อกันอยู่
OM    สุภาพบุรุษ เพื่อนสนิท
STANDBY    ยังเปิดวิทยุฟังอยู่
HARMONIC    ลูกชายหรือลูกสาวของนักวิทยุ
XYL    ภรรยาของนักวิทยุ
YL    สุภาพสตรี
YM    กระเทย/ทอม

communication/world

สื่อสาร อุตุฯ คริปโตฯ ลิงค์ เรื่องธุรกิจ หุ้น ตลาดหลักทรัพย์ คริปโตฯ เก็บไว้ดูเพื่อความสะดวกของผมเองหรือของใครก็ได้

    Facebook          Google กูเกิ้ล  Google translate
 vk social rt dotcom   Pantip thai Social discord social 

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

คลื่นกระแสลมตะวันออก

คำว่าคลื่น  สำหรับท่านไม่ได้ศึกษาเรื่องไฟฟ้าสื่อสารมาก่อน     ก็ขอให้นึกถึงคลื่นทะเล     จะมีลัษณะคล้ายกันในแบบคลื่นซายด์ (โค้งขึ้นแล้วโค้งลง จริงแล้วก็เขียนมาจากรอบวงกลม ๑ วง)    คลื่นกระแสลมตะวันออกก็ความหมายตามตัว   คือไหลจากตะวันออกไปตะวันตก   โดยความยาวของคลื่นจะคิดจากจุดเริ่มที่เคลื่นที่ไป... สูงขึ้นและต่ำลง.. ไต่สูงขึ้นจนมาถึงที่จุดเดิม เป็นการครบ 360 องศาถือเป็นคลื่น 1 ลูก จุดนี้จะใช้เวลาสั้นหรือยาวเท่าไหร่ จะใช้ระยะทางเท่าไหร่  คือความยาวคลื่น



คลื่นกระแสลมตะวันออก   จะกลับทางกับ คลื่นกระแสลมตะวันตก   คือจะไหลจากตะวันออกไปตะวันตก เราจะมองเห็นด้าน troug (ขาขึ้น ด้านความชื้นเยอะด้านมีเมฆเยอะ)  จะโค้งลงมาทางทิศใต้) ส่วนด้านขาลง (แห้งและเย็น) จะโค้งขึ้นทางทิศเหนือ เป็นด้าน Ridge // ดูแผนที่ความกดอากาศเท่า (isobar)ของกรมอุตุฯ


เพราะฉะนั้นที่แกน trough จะต้องสำพันธ์กับลมค้าทางใต้ เมื่อลมค้าทางใต้ ซึ่งเป็นอากาศหนาวจากซีกโลกใต้ โฉบเข้ามาปะทะ กับตำแหน่งคลื่นตรงแกน trough ของคลื่นกระแสลมตะวันออก  ที่มีความชื้นอยู่มาก (กระแสอากาศขาขึ้น ) ความปั่นป่วน จากฝนฟ้าคะนอง จึงเกิดขึ้น เป็นลักษณะเดียวกับคลื่นกระแสลมตะวันตกนั่นเอง


ลักษณะที่สำคัญของคลื่นกระแสลมตะวันออก 
คลื่นกระแสลมตะวันออก   เป็นคลื่นยาว  (Long  Wave) ที่ปรากฏในลมค้า  ทางตอนเหนือด้านตะวันตก  ปกติจะปรากฏครั้งแรกในเดือนเมษายน   หรือพฤษภาคม  และเห็นไปถึงเดือนตุลาคมหรือพฤศิจกายน ที่ละติจูด 5 -15 องศาเหนือ มีช่วงคลื่น (Weave Length) 2,000 – 2,500 กม.(คลื่น 1 ลูก ) ปรากฏ ในช่วงเวลา 3  – 4 วัน และเคลือนที่ด้วยความเร็วประมาณ 18  –36 กม./ชม หรือเคลื่อนที่ประมาณ 5 – 7 องศาลองติจูด / วัน 


โดยจะแรงขึ้นถ้าอยู่ใกล้ ITCZ (Intertropical Convergence Zone ) ในสัปดาห์หนึ่งจะ ปรากฏขึ้นประมาณ 2  ครั้ง  โดยประมาณว่า 9 ใน 100 คลื่นนี้จะพัฒนาการเป็นพาุยหมุนเขตร้อน ซึ่งมีการศึกษาไว้ว่า ประมาณ 60% ของพายุในแถบมหาสมทรแอตแลนติก ที่มีความรุนแรงแรงเกิดจากคลื่นกระแสลมตะวันออกนี้ 


คลื่นกระแสลมตะวันออก (Easterly wave)

เวลาฟังคำพยากรณ์จากกรมอุตุฯ  ซึ่งมีบ่อยในช่วงเดือนเมษายน   หรือพฤษภาคม  ที่จะได้ยินว่าให้ระวังฝนจะตกหรือจะมีพายุฝนฟ้าคนองในอีก 3-4 วันข้างหน้า จากคลื่นกระแสลมตะวันออก ที่เคลื่อนเข้ามา

แผนที่เส้นความกดอากาศเท่าของกรมอุตุฯ หากสังเกตุ ตัว L ว่าอยู่บริเวณไหนของคลื่น ..จะสามารถรู้ทิศทางลมได้

พอจะสรุปการเกิดขึ้นของกระแสคลื่นนี้ได้ว่า
 กระแสลมตะวันออก 
เป็นลมประจำถิ่นที่พัดบริเวณละติจูดต่ำหรือเขตร้อน   โดยลมตะวันออกที่เคลื่อนผ่านแนวเทือกเขา  แนวยกตัวของอากาศร้อนท้องถิ่น  สามารถเกิดเป็นคลื่นได้ ,  ลมตะวันออกที่พัดอ่อนสลับกับแรงทำให้เกิดเป็นคลื่นได้   โดยเฉพาะบริเวณมหาสมุทร เมื่อกระแสลมตะวันออกมีความแรงมากพอก็ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวเหมือนคลื่น      ทำให้เกิดอากาศปั่นป่วนเกิดแรงเหนี่ยวนำยกตัวทำให้เกิดเป็นกลุ่มเมฆฝน   ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงและเป็นพายุหมุนเขตร้อนได้  


คลื่นกระแสลมตะวันออก      มีความเชื่อมโยงกับการเกิดพายุหมุนเขตุร้อนในแถบมหาสมทรแปซิฟิก  มหาสมุทรแอตแลนติก  การเคลื่อนตัวของคลื่นผ่านบริเวณต่างๆ    ในเขตโซนร้อนแหล่งกำเนิดคลื่นกระแสลมตะวันออกเริ่มก่อตัวที่ระดับความกดอากาศประมาณ   700  มิลลบาร์ (สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3.5 กม.)  ในช่วงฤดูร้อนบริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก  คลื่นอากาศนี้จะก่อตัว จากหย่อมความกดอากาศต่ํา  แล้วค่อยๆเคลื่อนที่ผ่าน เวียดนาม ไทยพม่า  และตอนบนของอ่าว เบงกอล และอาจเคลื่อนตัวต่อไปยังอินเดียและทะเลอาราเบียนด้านตะวันออก แล้วอ่อนกำลังลงที่บริเวณทะเลอาราเบียนด้านตะวันตก 




หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวต่อไปยังบริเวณ ตอนเหนือของอัฟริกา เคลื่อนตัวผ่านไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก และบางครั้งอาจเคลื่อนตัวผ่านทวีปอเมริกาไปยัง มหาสมทรแปซิฟิกด้านตะวันออก   แล้วอ่อนกำลังลงเนื่องจากอุณหภมิน้ำทะเลที่ต่ําในบริเวณนั้น และ เคลื่อนตัวต่อไปอีกจนถึงตอนกลางของมหาสมทรแปซิฟิก เป็นการครบรอบการเคลื่อนที่ ใน ระหวางการเคลื่อนที่  คลื่นอากาศจะมีการผันแปรอยางมากในแนว  มีความรุนแรง ความยาวคลื่น ความเร็ว ในการเคลื่อนตัวและตำแหนงของเมฆและฝนในคลื่นอากาศที่อาณาาบริเวณตำแหน่ง Trough (ช่วงขาขึ้นของคลื่น )


ตัวอย่างแผนที่ลักษณะอากาศในเดือนเมษายน   ขณะที่แกน Trough อยู่ด้านตะวันออกประเทศฟิลิปินส์ แต่ที่ด้านตะวันตกเป็นลักษณะของ Ridge กำลังเคลื่อนเข้าไปทางทะเลจีนใต้ ด้าน Trouhg จะมีฝนฟ้าคะนองหรือพายุเกิดขึ้นได้
พายหมุนเขตุร้อน ส่วนมากมีพัฒนาการมาจากคลื่นกระแสลมตะวันออก   คลื่นอากาศนี้จะเห็น ได้ในลักษณะของเส้นความกดอากาศเท่า  (isobar) ที่เคลื่อนจากตะวันออกไปทางตะวันตก     พายุฝน ฟ้าคะนองจะปรากฏด้านตะวันออกของคลื่น เพราะการยกตัวของอากาศ (ในรูปส่วนโค้งที่ชี้ไปทางทิศใต้)  


โดยมีการพัฒนาเป็นลักษณะหมุนเวียนของอากาศเขาหาศูนยกลาง (Cyclonic) จนเป็นพายเฮอริเคนได้     สวนพายใต้ฝุ่น หลายลูกในเขตแปซิฟิกตะวันตก เชื่อกันว่ามีพัฒนาการจากคลื่นกระแสลมตะวันออกเช่นกัน 


โปรดสังเกตุรูปคลื่นแผนที่ความกดอากาศผิวพื้น ในแต่ละฤดูกาล

ที่เขียนเครื่องหมายลูกศรไว้  เป็นลักษณะรูปคลื่น  มีความกดอากาศ ตัว L กับตัว H ภาพนี้เป็นความกดอากาศหน้าฝน 30 มิย. 2558 ที่ตำแหน่งตัว L กับ H หากเป็นหน้าหนาวจะสลับกัน (เฉพาะผิวพื้น คลื่นไหลคนละทางกัน แกน trough กับ ridgeจะกลับทากัน ) สังเกตุ เมฆจะก่อตัวเยอะที่ร่องคลื่นเดียวกับตัว L

คลื่นกระแสลมตะวันตก

คลื่นหากท่านไม่เคยได้ศึกษาระบบไฟฟ้าสื่อสารมาก่อน    ก็ขอให้นึกถึงคลื่นทะเล  จะมีลักษณะคล้ายๆกันในแบบคลื่นซายด์ (โค้งขึ้นแล้วโค้งลง)  เสียงที่เราได้ยินก็เป็นคลื่น  แต่มีความถีต่ำ ระดับ 20 รอบ ถึง 20000 รอบต่อวินาที   คลื่นวิทยุคือคลื่นที่ใช้ส่งสัญญานต่างๆ จะมีความถี่สูงๆ  สูงถึงหลายล้านรอบต่อวินาที ความยาวคลื่นจะสั้นมากเป็นไมครอนเมตรฯ เช่นส่งวิทยุ โทรทัศน์ ไมโครเวฟ  ดาวเทียมฯ

โดยปกติแล้วช่วฤดูหนาว   ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงเหนือ  แต่ช่วงกลางหรือปลายฤดูหนาวจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกพัดเข้ามาทุกปี  และกรมอุตุก็มักประกาศให้ระวังฝนตก ลมแรงที่อาจเกิดขึ้นได้


คลื่นกระแสลมตะวันตกก็ความหมายตามตัว   คือไหลจากตะวันตกไปตะวันออก   เป็นลมระดับชั้นกลางขึ้นไป ไม่ใช่ลมที่พัดอยู่บนผิวพื้น     โดยความยาวของคลื่นจะคิดจากจุดเริ่มที่เคลื่นที่ไป... สูงขึ้นและต่ำลง.. ไต่สูงขึ้นจนมาถึงที่จุดเดิม เป็นการครบ 360 องศาถือเป็นคลื่น 1 ลูก จุดนี้จะใช้เวลาสั้นหรือยาวเท่าไหร่ จะใช้ระยะทางเท่าไหร่  คือความยาวคลื่น

ภาพวาดนี้อาจจะดูยาก. เขียนไม่สมบูรณ์ . ให้เข้าใจว่าเริ่มนับที่ 0 องศา 90  -180 - 245 -  360   ตามลำดับ

ส่วนคลื่นกระแสลมจะเป็นคลื่นแบบยาวๆ     ยาวกว่าคลื่นของน้ำทะเล   คลื่นทะเล 1รอบยาว 10 เมตร คลื่นทสึนามิยาว 150 เมตรเป็นต้นโดยประมาณ ความยาวคลื่นกระแสลมอาจจะยาวเป็น  100 หรือ 1,000 กว่ากม.ต่อ ๑ ลูกคลื่น  และมีอะไรถูกพาไปบ้างในคลื่นนั้น      สิ่งที่ถูกพาไปนั้นคือกระแสคลื่น


คลื่นกระแสลมตะวันตก (Westerly Trough)
ปกติแล้วจะมี 2 คู่ (เหมือนกัน) ในซีกโลกเหนือและใต้ แต่ที่มีอิทธิพลต่ออากาศบ้านเรา     คือส่วนหนึ่งของคลื่นกระแสลมกรดกึ่งโซนร้อน sub Tropical jet (เส้นสีชมพู) ที่ละติจูด 25 - 40 เหนือ (ใต้ ) ที่ระดับความสูงประมาณ 5.5 กิโลเมตร ซึ่งโดยปกติจะมีความปั่นป่วนที่อากาศแจ่มใส เพราะมาจากที่สูง จากละติจูดสูง ความชื้นน้อย  และเป็นกระแสลมระดับที่เป็นอันตรายกับการบินได้เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่นักบินต้องรู้พิกัดความปั่นป่วนของอากาศจากกรมอุตุฯก่อนทำการบิน

เพิ่มจากลิงค์ https://pantip.com/topic/33635598

แต่ในปลายฤดูหนาว บางทีก็ต้นฤดูหนาว คลื่นนี้จะพัดลงมาทางละติจูดต่ำ แล้ววกกลับขึ้นไปละติจูดสูง แต่เมื่อโฉบลงมาในเขตุร้อนชื้นจะปะทะ  หรือเหนี่ยวนำดึงเอาอากาศอุ่นชื้นจากข้างล่างขึ้นไปด้วย    โดยเฉพาะที่ด้าน trough (ขาขึ้นสูงสุดของลูกคลื่น)  ไปปะทะกับความกดอากาศสูงที่เคลื่อนมาจากทิศเหนือหรือจากด้านบน    เกิดการปะทะกัน  ระหว่างลมร้อนชื้น และอากาศหนาว  ความปั่นป่วนจึงเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนองจึงเกิดขึ้น (เพิ่มเติม http://www.aeromet.tmd.go.th/met/story/story.htm ) ดูรูปข้างล่างประกอบ


ภาพข้างบนนี้ผมพึ่งเขียนใหม่ (อับเดท)  โดยโพสในเฟสบุ๊คกลุ่ม วันที่ 3 มค.2562 และพยากรณ์ว่า ฝนจะตกภาคเหนือตอนบนวันที่ 8 หรือ 9 มค.2562 ซึ่งต่อมาฝนก็ตกจริง  หากสังเกตุดีๆจะเห็นคลื่นกระแสลมตะวันตกพัดสอบกับลม วนขวาขาชึ้น   ที่นำความชื้นมาปะทะกับลมเย็นพอดี ส่วนการพยากรณ์นั้นจะไม่ใช่แบบจำลองอย่างเดียว จะใช้เมฆดาวเทียม  บวกกับสมาชิกทางภาคใต้ ภาคอื่นเรื่องทิศทางลม แล้วนำมาประมวลเข้าด้วยกันครับ


โดยปกติการพิจารณากระแสคลื่นลมตะวันตก  จะพิจรณาจากลมชั้นบนระดับ 300-700 hPa ( 3-9 กม.)

-หลักเกณฑคล้ายๆ กับคลื่นกระแสลมตะวันออก แต่คลื่นจะไหลจากตะวันตกไปตะวันออก     โดยมีรูปร่าง แบบ V-sharp โดยฝนจะมีมากทางด้านหน้าของ Trough ส่วนทางด้านหลังอากาศจะจมตัว ไม่มีฝน

-บางครั้งคลื่นกระแสลมตะวันตกเมื่อเคลื่อนเข้ามาถึงประเทศ พม่า จะมองไม่เห็น  หรือเป็นด้าน Ridge แต่เมื่อเคลื่อนมาถึงภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยจึงจะมองเห็น  เพราะเป็นด้าน
Trough ที่มีเมฆมีฝน


พิจรณาดูแล้วคลื่นกระแสลมตะวันตกบางทีดูคล้ายๆกับลมค้า (trade winds)
อากาศเย็นที่บริเวณเส้นละติจูด 30° เหนือและใต้ ที่ถูกแรงดันของอากาศที่จมตัวลงจนด้านบน ผลักดันให้ไหลไปยังบริเวณที่มีแรงกดอากาศต่ำ บริเวณเส้นศูนย์สูตร เกิดเป็นกระแสลมที่เรียกกันว่า ลมสินค้า หรือลมค้า (trade winds) ลมสินค้านี้จะพัดไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร ก่อนที่จะหมดกำลังลง จึงทำให้เกิดเขตลมสงบ หรือลมอ่อน (doldrums)






โปรดสังเกตุรูปคลื่นและทิศทางบนแผนที่ความกดอากาศผิวพื้นในแต่ละฤดูกาล

ที่เขียนเครื่องหมายไว้ เป็นลักษณะรูปคลื่น  มีความกดอากาศ ตัว L ยกขึ้นกับตัว H จมตัวลงตามแนวคลื่น Trougu และ  Ridge ภาพนี้เป็นความกดอากาศหน้าฝน 30 มิย. 2558  (ผิวพื้น คลื่นไหลไปคนละทางกัน  ตัวนี้จะไหลจากตะวันออกมาตะวันตกด้าน  Troug จะเป็นความกดอากาศต่ำ ตัว L เสมอ กับด้าน Ridge ที่จะเป็นลักษณะของตัว H ความกดอากาศสูง Troug & Ridge คลื่นกระแสลมตะวันตกกับตะวันออกจะสลับกัน  โปรดดูภาพแรกของหน้านี้ประกอบ)



กำหนดศนยกลางความแรงของความกดอากาศสง

1,030 hPa -ความกดอากาศสงมกำลังปานกลาง
1,045 hPa -ความกดอากาศสงมกำลังคอนข้างแรง
1,050 hPa -ความกดอากาศสงมกำลังแรง


หมอก

หมอก  ความงามที่น่าหลงไหลโดยเฉพาะหมอกในฤดูหนาว ที่มีปรากฏการณ์หมอกตามเมือง ตามป่า ตามภูเขาให้เห็นภาพสวยๆ  แต่หมอกที่เป็นมลพิษ อย่างหมอกควันจากการเผาป่า จาก โรงงาน ก็เป็นปัญหามากมายเช่นกันในยุคนี้

หมอกที่นครดูไบ
พื้นที่ กทม.และปริมณทลมักมีหมอกเกิดมากในช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวมาฤดูร้อน  จะเจอประจำช่วงขับรถไปทำงานตอนเช้าๆจะมีทัศนวิสัยแย่เพราะว่าหมอกหนามาก    ปีนี้ พศ.  2558  วันที่ 25 - 27 มค. เป็นวันที่มีมีหมอกหนามาก  แต่หมอกจะดูสวยเมื่อเป็นวันหยุดไม่ไปไหน หรือเมื่อไปเที่ยวป่าเที่ยวเขาทางภาคเหนือหมอกมักเกิดในช่วงเช้าของฤดูหนาว และนักท่องเที่ยวจะมารอชมทะเลหมอกกันมากอยู่ภาคใต้ตั้งแต่เด็กผมเห็นหมอกมี มากตามยอดเขาช่วงเช้าๆ นานๆ จึงจะเห็นมีหมอกหนาๆ บนพื้นดิน


หมอก ผมมองว่าเป็นน้องของน้ำค้าง เพราะเกิดตามหลังกันมา วันไหนนอนอยู่บ้านอากาศเย็นสบาย เสียงหลังคาสังกะสี หรือเมตัลชี๊ดดังเปาะแปะคือน้ำค้างลง เดี๋ยวเช้า หากอากาศหนาวเย็นเดี๋ยวน้องหมอกก็มักตามมาในตอนเช้า  แต่บางทีก็ไม่มี  แล้วหมอกจริงๆคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร มีอันตรายต่อการบิน ต่อการสัญจรของรถ อย่างไร ต้องไปดูรายละเอียดจาก ไซด์นี้ครับ  http://www.aeromet.tmd.go.th/met/story/show_9.htm

หมอก (Fog)- FG เป็นน้ำในอากาศหรือไฮโดรมีทีเออร์ (hydrometeor)  ชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยกลุ่มละอองน้ำขนาดเล็กมากสามารถมองเห็นได้ด้วยตา เปล่าลอยอยู่ในอากาศใกล้พื้นดิน  โดยปกติจะทำให้ทัศนวิสัยทางแนวนอนที่ผิวพื้นโลกลดลงเหลือน้อยกว่า 1,000 เมตร ถ้าทัศนวิสัยมากกว่า 1,000 เมตร เรียกว่า หมอกบางหรือหมอกน้ำค้าง (mist)  หมอกกับเมฆต่างกันแต่เพียงว่า หมอกนั้นมีฐานอยู่ติดกับพื้นดิน ส่วนเมฆจะมีฐานสูงเหนือพื้นดินขึ้นไป 

หมอกที่ถนนติวานนท์ ใกล้แยกเข้าเมืองทองธานี  กพ. 2558

โดย ทั่วไปขณะเกิดหมอกทัศนะวิสัยจะต่ำกว่า 1 กิโลเมตร   หมอกจึงเป็นปรากฎการณ์ที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการบิน   เพราะทัศนะวิสัยมีความสำคัญต่อการบินมาก   แม้ว่าในปัจจุบันเครื่องบินจะมีสมรรถนะในการบินขึ้น-ลงสนามบินได้เกือบทุก สภาวะอากาศก็ตาม  แต่นักบินก็จะต้องมองเห็นทางวิ่งของสนามบิน  ในกรณีที่มีหมอกปกคลุมสนามบิน  สภาพอากาศขณะนั้นแจ่มใสไม่มีเมฆ ขณะทำการบินที่ตำแหน่งเครื่องบินพอเหมาะ นักบินสามารถมองเห็นสนามบินเบื้องล่างชัดเจน  แต่เมื่อลดระดับลงมาอยู่ในชั้นของหมอก นักบินอาจมองไม่เห็นสนามบินเลย ทั้งนี้เพราะหมอกเกิดปกคลุมสนามบินไม่สูงจากพื้นดินมากนัก  จะปกคลุมหนาทึบบริเวณใกล้พื้นดิน  ปรากฎการณ์เช่นนี้มีความสำคัญมาก  นักบินจะต้องคำนึงถึงให้มากเพราะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุเครื่องบินตกมามาก แล้ว

หมอกน้ำค้าง (Mist) - BR เป็นน้ำในอากาศหรือไฮโดรมีทิเออร์ (hydrometeor) ซึ่งประกอบด้วยละอองน้ำ เล็กมากจนไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือละอองน้ำดูดความชื้น (hydroscopic water droplets) ลอยอยู่ในอากาศ หมอกน้ำค้างมีลักษณะเช่นเดียวกับหมอกแต่บางกว่า เมื่อมีหมอกน้ำค้างเกิดขึ้นเหนือที่ใดมักจะแลดูคล้ายม่านบางสีเทาคลุมอยู่ เหนือภูมิประเทศแห่งนั้น ทำให้ทัศนวิสัยที่ผิวพื้นโลกลดลงน้อยกว่าหมอก แต่ยังเห็นได้ไกลเกินกว่า 1 กม. ความชื้นสัมพัทธ์ในหมอกน้ำค้างมักจะน้อยกว่า 95%   หมอกน้ำค้างเป็นสภาพอากาศที่อยู่ระหว่างฟ้าหลัวชื้น (damp haze) กับหมอก

หมอกเป็นหย่อม(Fog patches) - BCFG เป็นหมอกซึ่งกระจายออกเป็นแนวไม่สม่ำเสมอกัน เป็นหย่อมๆ

หมอกตื้น (Shallow Fog)  -  MIFG เป็นหมอกซึ่งปกคลุมพื้นดิน ต่ำกว่า 2 เมตร

หมอกบางส่วน (Partial fog) - PRFG เป็นหมอกซึ่งปกคลุมบางส่วนของทางวิ่ง (Runway)

การ เกิดหมอก ลักษณะการเกิดคล้ายเมฆ  หมอกทุกชนิดเกิดเมื่ออุณหภูมิอากาศมีค่าเท่ากับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง ทำให้อากาศเกิดการอิ่มตัว (saturate)  แล้วกลั่นตัว (condense) เป็นละอองน้ำเล็กๆ  หมอกสามารถแบ่งออกตามลักษณะการเกิด ดังนี้

               1. หมอกที่เกิดจากการเย็นตัวของอากาศ (Cooling fog) เป็นหมอกที่เกิดขึ้นภายในมวลอากาศ บางทีเรียกว่า (Air mass fog) ซึ่งแบ่งย่อยออกได้อีก คือ

               1.1  หมอกที่เกิดจากการแผ่รังสีความร้อน (Radiation fog) เป็นหมอกที่เกิดเหนือพื้นดินในเวลากลางคืน และจางหายไปในเวลาเช้า ภายหลังดวงอาทิตย์ขึ้น หมอกชนิดนี้มักเกิดในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ลมอ่อน และอากาศมีความชื้นสูง เกิดจากในตอนกลางคืน พื้นดินจะคายความร้อนหรือแผ่รังสีออกได้มากเป็นเหตุให้พื้นดินเย็นลง อากาศในชั้นล่างที่อยู่ติดพิ้นดินจะเย็นลงด้วย จนมีอุณหภูมิเท่ากับจุดน้ำค้าง ทำให้ไอน้ำในอากาศที่อยู่ใกล้พื้นดินกลั่นตัวเกิดเป็นหมอก

               1.2  หมอกที่เกิดจากการพาความร้อนในแนวนอน (Advection fog) หมอกที่เกิดขึ้นในชั้นต่ำ ๆ ของมวลอากาศชื้นซึ่งเคลื่อนที่ไปบนผิวพื้นที่เย็นกว่าจนทำให้อุณหภูมิของ อากาศข้างล่างลดลงต่ำกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้าง หมอกชนิดนี้มักเกิดจากอากาศชื้นเคลื่อนที่ไปบนผิวพื่นน้ำที่เย็นจัด (เช่น หมอกทะเล - sea fog)

               1.3  หมอกลาดเนินเขา (Up-slope fog) หมอกที่เกิดตามลาดเนินเขาด้านรับลม เนื่องจากอากาศยกตัวสูงขึ้นตามลาดเขาทำให้เกิดการขยายตัวแบบแอเดียแบติค (adiabatic expansion) แล้วเย็นลงจนถึงอุณหภูมิจุดน้ำค้างจนไอน้ำกลั่นตัวกลายเป็นหมอก

             2. หมอกที่เกิดจากการระเหย (Evaporation fog) หมอกซึ่งเกิดขึ้นโดยการระเหยอย่างรวดเร็วของน้ำจากผิวหน้าน้ำที่อุ่นและ กระจายเข้าไปในมวลอากาศเย็นและมีเสถียรภาพคือมีการทรงตัวดี ทำให้มวลอากาศเย็นนั้นอิ่มตัวและเกิดเป็นหมอก ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

             2.1  หมอกในแนวปะทะอากาศ (Frontal fog) หมอกซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณแนวปะทะอากาศ โดยทั่วไป แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ หมอกซึ่งเกิดก่อนแนวปะทะอากาศอุ่น (warm - front pre - frontal fog) หมอกซึ่งเกิดตามหลังแนวปะทะอากาศเย็น (cold - front post - frontal fog) และหมอกซึ่งเกิดขณะแนวปะทะอากาศเคลื่อนผ่าน (frontal - passage fog)

             2.2  หมอกไอน้ำ (Steam fog) หมอกที่เกิดจากการระเหย คือเมื่อไอน้ำระเหยเข้าไปหรือเพิ่มเข้าไปในอากาศซึ่งเย็นจัดกว่ามากและมีการ ทรงตัวดี ตัวอย่างเช่น มวลอากาศเคลื่อนผ่านแนวน้ำแข็ง (stretches of ice) ก่อนจะผ่านไปเหนือผิวพื้นทะเลที่อุ่น

การพยากรณ์หมอก : Fog forecast  หมอกจะเกิดขึ้นเมื่ออากาศมีคุณสมบัติต่อไปนี้

1.       ท้องฟ้าไม่มีเมฆ  (Clear sky) หรือมีเมฆเล็กน้อย

2.       ลมอ่อน ไม่เกิน 5 นอต (Light wind)

3.       ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศสูง (High relative humidity)

4.       อัตราส่วนผสมของอากาศจะต้องคงที่หรือเพิ่มขึ้น (Constant or Mixing ratio)

5.       อากาศมีการทรงตัวดี (Stable air) และมี inversion ที่ระดับต่ำ

การพยากรณ์หมอกสลายตัว :  หมอกจะสลายตัวมีหลักสังเกตดังนี้

1.       เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้น เช่น ดวงอาทิตย์ส่องในตอนเช้า หมอกเมื่อได้รับความร้อนก็จะยกตัวกลายเป็นเมฆหรือระเหยกลายเป็นไอหมด

2.       เมื่อลมมีกำลังแรงขึ้น หมอกจะสลายตัวได้เร็วชึ้น

3.       เมื่อมีเมฆปกคลุมท้องฟ้ามากชึ้นจะทำให้หมอกสลายตียิ่งขึ้น

การกำจัดหมอก 
การกำจัดหรือลดปริมาณหมอกลงในบริเวณพื้นที่จำกัดพื้นที่หนึ่ง โดยการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติหรือโดยการกระทำของมนุษย์ หมอกซึ่งเย็นจัดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง (Supercooled Fog) สามารถทำให้สลายตัวไปได้โดยการหว่านน้ำแข็งแห้งหรือซิลเวอร์ไอโอไดด์ (dry ice or silver iodide) เข้าไปในหมอก ส่วนหมอกอุ่น (warm fog) สามารถกำจัดได้โดยวิธี FIDO (Fog Investigation Dispersal Operations) เป็นวิธีกำจัดหมอกซึ่งอังกฤษเป็นผู้ค้นคิดขึ้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ สอง โดยเผาน้ำมันเบนซิน (gasoline) หรือเชื้อเพลิงอื่นๆ ให้เป็นแนวไปตามข้าง ๆ ทางวิ่งของสนามบิน (airfield runway)  

ข้อแตกต่างระหว่างหมอกกับละอองอากาศ ( Fog and Aerosols)
นอจจากหมอกแล้วยังมีปรากฏการณ์ที่เสมือนหมอก แต่ไม่ใช่หมอก โดยมีลักษณะที่ดูคล้ายๆกันจนอาจจะแยกไม่ออก โดยที่ะหมอก (Fog)เป็นปรากฎการณ์ซึ่งเกิดขึ้นจากไอน้ำควบแน่นเป็นหยดน้ำในลักษณะเดียวกับ เมฆ  แตกต่างจากละอองอากาศ (Aerosols) ซึ่งเป็นมวลอนุภาคขนาดเล็กที่แขวนลอยในอากาศ เช่น ฝุ่นเกษรดอกไม้ ไอเกลือทะเล เขม่าควัน  ละอองอากาศทุกชนิดมีสถานะเป็นของแข็งซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการควบแน่นของน้ำ  แต่ละอองอากาศทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางแสง ซึ่งมองเห็นเป็นฝ้าบางๆ คล้ายหมอกแต่มีสีคล้ำสกปรก ตัวอย่างปรากฎการณ์ของละอองอากาศที่ควรรู้จัก ได้แก่

หมอกแดด (Haze) เป็นฝุ่นละอองที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลัว คือ แสงอาทิตย์ส่องสว่างไม่เต็มที่เนื่องจากมีอนุภาคฝุ่นในบรรยากาศเป็นอุปสรรค ขวางกั้นทางเดินของแสง หมอกแดดมัก
เกิดขึ้นในวันที่มีอุณหภูมิสูงและมีความกดอากาศต่ำ อากาศร้อนเหนือพื้นดินยกตัว พาให้ฝุ่นและอนุภาคบนพื้นดินลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ


หมอก ควัน (Smog) เป็นมลภาวะซึ่งเกิิดจากการสันดาปเชื้อเพลิงฟอสซิลในเครื่องจักรกลและโรงงาน  มักเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่
และ นิคมอุตสากรรมต่างๆ รวมทั้งการเผาป่าและพื้นที่เกษตรกรรม  คำว่า Smog เกิดจากการนำคำว่า "Smoke" ซึ่งแปลว่าควัน และคำว่า "Fog" ซึ่งแปลว่าหมอก มาเรียงผสมกัน